新媒网 · 跨境数据社区

"การสูบสิ่งปฏิกูล" เป็นเพียงวิธีการเคลื่อนย้ายถ่ายเทน้ำเสียและของเสีย จากที่หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่ง โดยไม่อาจรู้แน่ชัดว่า สิ่งสกปรกเหล่านั้น จะได้รับการบำบัดอย่างถูกต้องหรือไม่ เพียงใด แต่หากลองสืบค้นข้อมูลย้อนหลัง จะพบหัวข้อข่าวจำนวนมาก รายงานถึงการกระทำผิดกฎหมาย ด้วยการลักลอบทิ้งสิ่งปฏิกูลลงในแหล่งน้ำสาธารณะ ที่ดินรกร้าง รวมถึงพื้นที่เพาะปลูกทางการเกษตร โดยอ้างว่าสิ่งสกปรกเหล่านั้นจะกลายเป็นปุ๋ยในภายหลัง ทั้งๆ ที่ในความเป็นจริงแล้ว สิ่งปฏิกูลไม่ใช่ปุ๋ย เพราะมันปนเปื้อนไปด้วยสิ่งสกปรกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นพยาธิ เชื้อก่อโรคทั้งแบคทีเรียและไวรัส เลือด ยาปฏิชีวนะ ยารักษาโรค น้ำยาล้างห้องน้ำ กระดาษชำระ ผ้าอนามัย ถุงยางอนามัย มูลสัตว์ และขยะติดเชื้ออื่นๆ ซึ่งไม่เพียงจะสร้างปัญหามลพิษทางกลิ่น ดิน และน้ำ แต่มันยังทำลายมาตรฐานสุขอนามัย และคุณภาพสิ่งแวดล้อมด้วย และถึงแม้สิ่งปฏิกูลจะถูกส่งต่อไปยังโรงกำจัดสิ่งปฏิกูล แต่ด้วยขั้นตอนการจัดการที่มีการเติมสารเคมี เช่น กรดซัลฟิวริก โพลีเมอร์ (ในกลุ่ม aluminum หรือ iron) และคลอรีน อาจส่งผลให้สิ่งปนเปื้อนบางชนิดถูกทำปฏิกิริยาและเปลี่ยนรูปไป กลายเป็นสารก่อมะเร็ง สารก่อการกลายพันธุ์ หรือสารพิษตกค้าง ภายหลังการบำบัดน้ำเสียหรือหมักปุ๋ยได้ เมื่อน้ำทิ้งถูกระบายออกสู่แหล่งน้ำ หรือปุ๋ยถูกใส่ลงในดิน จึงมีความเสี่ยงที่สารมลพิษเหล่านี้ จะแพร่กระจายต่อไปในสิ่งแวดล้อมและห่วงโซ่อาหาร ทั้งนี้ เพราะมาตรฐานการตรวจวิเคราะห์คุณภาพน้ำทิ้งและปุ๋ย ไม่ได้ครอบคลุมถึงการตรวจวัดสารก่อมะเร็ง สารก่อการกลายพันธุ์ ไมโครพลาสติก นาโนพลาสติก และเชื้อก่อโรคอื่น ที่นอกเหนือจากกลุ่ม Fecal Coliform Bacteria ยังมีประเด็นที่ต้องระมัดระวังเพิ่มเติม นั่นคือการรวบรวมสิ่งปฏิกูลปริมาณมากเข้าสู่จุดศูนย์กลาง อาจสร้างความเปราะบางให้กับระบบสุขาภิบาลภายในชุมชนได้เช่นกัน ในกรณีที่เกิดเหตุไฟฟ้าดับ เครื่องจักรขัดข้อง ฝนตกหนัก น้ำท่วมใหญ่ หรือภัยพิบัติ เป็นเหตุให้ระบบบำบัดน้ำเสียและโรงกำจัดสิ่งปฏิกูล ไม่สามารถดำเนินงานได้ตามปรกติ จนเกิดการรั่วไหลของสิ่งปฏิกูลออกสู่ชุมชน ทางระบายน้ำ และสิ่งแวดล้อมโดยรอบ เป็นต้น ครั้งหนึ่ง ธีโอดอร์ รูสเวลต์ อดีตประธานาธิบดีแห่งประเทศสหรัฐอเมริกา ผู้เคยได้รับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพ นักอนุรักษ์ และนักธรรมชาติวิทยา ได้เคยกล่าวไว้ว่า "Civilized people ought to know how to dispose of the sewage in some other way than putting it into the drinking water." นอกจากนี้ การกักเก็บสิ่งปฏิกูลไว้ในบ่อเกรอะเป็นเวลานาน โดยไม่ได้รับการย่อยสลายอย่างสม่ำเสมอ ยังก่อให้เกิดมลพิษทางอากาศ อันประกอบด้วยก๊าซพิษ ก๊าซไวไฟ และก๊าซเรือนกระจกหลายชนิด เช่น ก๊าซไฮโดรเจนซัลไฟด์ ก๊าซแอมโมเนีย ก๊าซมีเทน ก๊าซไนตรัสออกไซด์ เป็นต้น 💎 เราทุกคนสามารถหลีกเลี่ยงวงจรอันตรายนี้ได้ ด้วยการเติมจุลินทรีย์ "บียอนด์ ทรีท" เดือนละ 1 ครั้ง เพื่อย่อยสลายสิ่งปฏิกูลในบ่อเกรอะ "แทนการสูบสิ่งปฏิกูล" วิธีใช้: เทบียอนด์ทรีท 1 ถุง ในโถสุขภัณฑ์ แล้วกดน้ำตาม > Maintenance Dose - ทำเป็นประจำ เดือนละ 1 ครั้ง เพื่อย่อยสลายสิ่งปฏิกูลอย่างสม่ำเสมอ > Booster Dose - ในกรณีที่มีสิ่งปฏิกูลสะสมไว้ปริมาณมาก แนะนำให้ใช้ติดต่อกัน 5 วัน เพื่อเร่งการย่อยสลายสิ่งปฏิกูลให้รวดเร็ว > Double Dose - สำหรับสำนักงาน อาคารพักอาศัย ที่มีผู้ใช้งาน ตั้งแต่ 20 ถึง 50 คน แนะนำให้ใช้ครั้งละ 2 ถุง 🏷️ 1 ถุง ราคา 99 บาท ค่าจัดส่ง 30 บาท 🎖️ 5 ถุง ราคา 495 บาท + ส่งฟรี 🏆 10 ถุง ราคาพิเศษ 960 บาท + ส่งฟรี .............................. Lazada: https://www.lazada.co.th/shop/beyond-treat/ Shopee: https://shopee.co.th/beyond_treat/ OfficeMate: https://www.ofm.co.th/product/กำจัดกากของเสียและกลิ่นเหม็นด้วยจุลินทรีย์-บียอนด์ทรีท-ปริมาณ-50-กรัม-จำนวน-5-ถุ-p.YA15242 .............................. ขอบคุณข้อมูลจาก - ลุยตรวจ 3 โรงงานภายในศูนย์กำจัดมูลฝอยหนองแขม บำบัดน้ำเสียแยกไขมันสิ่งปฏิกูลปนเปื้อน เก็บกากตะกอนผลิตปุ๋ยอินทรีย์ ปักหมุดจุดก่อสร้างสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า, ศิวพงษ์ สปส., สำนักงานประชาสัมพันธ์ กรุงเทพมหานคร, วันเสาร์ที่ 16 มีนาคม 2024 - Corpuz MVA, Buonerba A, Vigliotta G, et al. Viruses in wastewater: occurrence, abundance and detection methods. Sci Total Environ. 2020;745:140910. doi:10.1016/j.scitotenv.2020.1409 - Parveen, N., Chowdhury, S. & Goel, S. Environmental impacts of the widespread use of chlorine-based disinfectants during the COVID-19 pandemic. Environ Sci Pollut Res 29, 85742-85760 (2022). doi:10.1007/s11356-021-18316-2 - Petr Travnicek, Petr Junga, Lubos Kotek, Tomas Vitez, Analysis of accidents at municipal wastewater treatment plants in Europe, Journal of Loss Prevention in the Process Industries, Volume 74, 2022, 104634, ISSN 0950-4230, doi:10.1016/j.jlp.2021.104634